วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

อินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน

บริการต่างๆบน อินเทอร์เน็ต Social Network
  1. Identity Network   เผยแพร่ตัวตน
 ใช้สำหรับนำเสนอตัวตน และเผยแพร่เรื่องราวของตนเองทางอินเตอร์เน็ทสามารถสร้างอัลบั้มรูปของตัวเอง สร้างกลุ่มเพื่อน และสร้างเครือข่ายขึ้นมาได้ 
 2. Creative Network  เผยแพร่ผลงาน
     สามารถนำเสนอผลงานของตัวเองได้ในรูปแบบของวีดีโอ ภาพ หรือเสียงเพลง
3. Interested Network    ความสนใจตรงกัน  
    
   del.icio.us เป็น Online Bookmarking หรือ Social Bookmarking  โดยเป็นการ Bookmark เว็บที่เราสนใจไว้บนอินเทอร์เน็ตสามารถแบ่งปันให้คนอื่นดูได้และยังสามารถบอกความนิยมของเว็บไซด์ต่างๆได้ โดยการดูจากจำนวนตัวเลขที่เว็บไซต์นั้นถูก Bookmark เอาไว้จากสมาชิกคนอื่นๆ
   Digg  นั้นคล้ายกับ del.icio.us แต่จะมีให้ลงคะแนนแต่ละเว็บไซด์ และมีการ Comment ในแต่ละเรื่อง
   Zickr ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยคนไทย เป็นเว็บลักษณะเดียวกับ Digg แต่เป็นภาษาไทย
 4. Collaboration Network   ร่วมกันทำงาน คือเป็นการร่วมกันพัฒนาซอฟต์แวร์หรือส่วนต่างๆของซอฟต์แวร์
   WikiPedia เเป็นสารานุกรมออนไลน์ขนาดใหญ่ที่รวบรวมความรู้ ข่าวสาร และเหตุการณ์ต่างๆ ไว้มากมาย
  ปัจจุบันเราสามารถใช้ Google Maps สร้างแผนที่ของตัวเอง หรือจะแบ่งปันแผนที่ให้คนอื่นได้ใช้ด้วย จึงทำให้มีสถานที่สำคัญ หรือสถานที่ต่างๆ ถูกปักหมุดเอาไว้ พร้อมกับข้อมูลของสถานที่นั้นๆ ไว้แสดงผลจากการค้นหา
 5. Gaming/Virtual Reality  โลกเสมือน



6. Peer to Peer (P2P)
 P2P เป็นการเชื่อมต่อกันระหว่าง Client (เครื่องผู้ใช้, เครื่องลูกข่าย) กับ Client โดยตรง โปรแกรม Skype จึงได้นำหลักการนี้มาใช้เป็นโปรแกรมสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ต และก็มี BitTorrent เกิดขึ้นมาเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการแบ่งปันไฟล์ต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง และรวดเร็ว แต่ทว่ามันก็ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์


Webboard
WebBoard คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในลักษณะเป็น กระดานสนทนา เป็นกระดานแจ้งข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน โดยใช้รูปแบบการแสดงผล HTML ที่นิยมใช้ใน World Wide Web.. WebBoard อนุญาตให้ผู้เยี่ยมชมเวปไซต์ และผู้พัฒนาเวปไซต์ สามารถตั้งหัวข้อกระทู้ เพื่อประกาศข่าวสาร แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ ซึ่งจะมีความแตกต่างจาก GuestBook ตรงที่ WebBoard จะสามารถแยก หัวข้อต่างๆ ออกเป็นกระทู้ๆ มีความโต้ตอบกันในการสนทนา ในหัวข้อเดียวกันมากกว่า กล่าวได้ว่า WebBoard คือพัฒนาการในรูปแบบใหม่ ของระบบการสนทนาใน BBS (Bulletin Board System) ที่เคยได้รับความนิยม ก่อนที่ระบบเครือข่าย Internet จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น WebBoard ที่พบเห็นกัน มีอยู่หลายรูปแบบ สำหรับโปรแกรม D'Board ที่เปิดให้ใช้บริการนี้ จะเป็น WebBoard ในลักษณะเดียว (รูปแบบคล้าย) กับที่ใช้ใน pantip.com
ประโยชน์
    * เป็นช่องทางในการติดต่อ ประกาศข่าวสาร ข้อมูล และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้
    * ทำให้เกิดสังคม ในการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ระหว่างกลุ่มผู้เยี่ยมชม
    * ผู้พัฒนาโฮมเพจ สามารถใช้เป็นช่องทางในการ ประกาศข่าวใหม่ๆ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น ได้
    * ง่ายในการใช้งาน แม้จะเป็นผู้เริ่มต้น เมื่อเทียบกับการใช้ Mailing list หรือ News Group
ข้อดีของการใช้ D'Board    * ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม CGI script
    * ไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรม CGI script ใน Server เอง
    * สามารถนำไปใช้ได้ แม้ว่า Server ของคุณจะไม่อนุญาตให้ติดตั้ง CGI script ได้เอง
    * สามารถกำหนดรูปแบบ ของหน้าต่างๆ ของ WebBoard ของคุณได้เอง โดยผ่านระบบการจัดการที่เตรียมไว้ให้
    * สามารถใช้ HTML code แตกหน้าตา หน้าต่างๆของ WebBoard ของคุณได้ (รวมถึง Java และ Javascript ด้วยเช่นกัน)
    * สามารถลบ และแก้ไข ข้อความ ที่มีผู้มาลงไว้ใน WebBoard ได้
    * สามารถใช้งานได้ ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นด้วยเวลาไม่ถึง 3 นาที ในการกรอกแบบฟอร์ม สมัครเป็นสมาชิก คุณก็สามารถ นำ WebBoard ของคุณไปใช้งาน ในโฮมเพจหรือเวปไซต์ ของคุณได้ทันที
    * และอื่นๆ...





msn ( chat )
    ก่อนอื่นขออธิบายสักหน่อยก่อนนะครับ เพื่อความเข้าใจ msn ( chat ) คืออะไร ? อธิบายอย่างง่ายๆ ก็คือ โปรแกรมที่ใช้ในการสนทนา ลักษณะการใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก
    วิธีการติดตั้ง msn ( chat ) ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา
  1. ก่อนอื่นคุณต้องมี Email Address ที่นามสกุล hotmail หรือ msn ก้อด้ายนะ ( ถ้าไม่มีไปสมัครที่ http://www.hotmail.com )
  2. เมื่อสมัครเสร็จแล้ว ให้ login เข้าไปในหน้าสำหรับเช็คเมล์
  3. คลิ๊กที่ Home สังเกตขวามือจะเห็นรูปผีเสื้อตัวโตๆๆ เขียนว่า msn..
  4. ให้คลิ๊กเข้าไป แล้วดาวโหลดโปรแกรม msn ตามขั้นตอน
  5. หลังจากดาวโหลดเรียบร้อยแล้ว ให้ท่านสังเกตมุมด้านล่างขวามือสุด ท่านจะเห็น ตัวตุ๊กตาสีเขียว มีเครื่องหมายกากบาท….. สีแดง
  6. ให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ตัวการ์ตูน
  7. จะขึ้นหน้าจอ MSN Messenger
  8. ให้คลิ๊กที่ "Click here to sign-in"
  9. จะขึ้นกรอบสีน้ำตาล ให้ท่านกรอกรายละเอียด
    Sign-in name…………………ให้กรอก email address ของท่าน
    Password ……………………..ให้กรอก Password ของท่าน
    แล้วคลิ๊ก OK
  10. เครื่องจะทำการ singin เข้าระบบให้ เมื่อเข้าระบบเรียบร้อยแล้ว สังเกตตัวการ์ตูนที่มุมขวาล่างจะไม่มี กากบาท สีแดง แล้ว


ขั้นตอนการหาคนมาคุยด้วย ( คนที่เราต้องการคุยด้วยจะต้องมีโปรแกรม msn ติดตั้งไว้ในเครื่องเช่นเดียวกันนะครับ )
  1. ต่อจากขั้นตอนที่ 10 นะเราจะอยู่ที่หน้า MSN Messenger
  2. มาที่เมนู Tools เลือก Add a Contact คลิ๊ก Next….ใส่ e-mail address ของเพื่อนเราหรือคนที่เราต้องการคุยด้วย
  3. คลิ๊ก Next อีกครั้ง จากนั้นคลิกที่ Finish (((((( เสร็จกระบวนการ )))))))
  4. ***** ในหน้า msn Messenger หลังจาก add คนที่เราต้องการคุยด้วยหรือเพื่อนของเรา เรียบร้อยแล้ว ให้สังเกตที่ชื่อของคนที่เรา add
    - ถ้าเค้าออนไลน์ ตัวการ์ตูนจะเป็น สีเขียว
    - ถ้าเค้าไม่ออนไลน์ ตัวการ์ตูนจะเป็น สีแดง
  5. ถ้าเราเห็นตัวการ์ตูนเป็น สีเขียว ที่ชื่อของเพื่อนเราคนไหน ถ้าเราต้องการคุยด้วยให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ตัวการ์ตูนได้เลย
  6. จะมีหน้าต่างอันใหม่ปรากฎขึ้นมา จากนั้นก็เริ่มการสนทนาได้ตามอัธยาศัย
  7. สำหรับเทคนิคและวิธีการอื่นๆ ก็ค่อยๆ เรียนรู้ด้วยตัวเองไปเรื่อยๆ แล้วกันนะครับ
    ( เราเชื่อว่าคงไม่เกินความสามารถของคุณ...คุณทำได้ )
ประโยชน์
1. คุยปรึกษาหารือ เรื่องงานที่กำลังทำหรือ สอบถามปัญหาเรื่องงานจากผู้เกี่ยวข้อง แต่เดิมเราใช้การโทรศัพท์พูดคุย แต่บางครั้งเราต้องการคุยเป็นการส่วนตัว แบบว่า 2 ต่อ 2 ไม่อยากให้คนอื่นได้ยินเสียงคุย (กลัวคนอื่นว่า ทำไมมันไม่รู้เรื่องนี้ ทำงานมาตั้งนานแล้ว อะไรประมาณนี้ครับ)
2. สามารถสร้างกลุ่มเครือข่ายการทำงานร่วมกันระหว่างคณะ/หน่วยาน/บุคลากรต่างๆ เช่น นักวิเคราะห์ของคณะต่างๆ มี MSN ต่อไปเมื่อจะประสานงานกันระหว่างคณะใด หน่วยงานใด ก็ไม่ต้องใช้โทรศัพท์ ก็ได้ เพียงแต่การพูดคุยทาง MSN เท่านั้น ก็สะดวกและตรงจุดเหมือนกัน
3. สามารถจัดประชุมแบบ e-meeting กันได้เลย เราสามารถจัดประชุมกลุ่มเล็กๆ ได้ ประมาณ 3-5 คน โดยติดตั้ง Webcam กับไมค์ ก็สามารถประชุมกันได้อย่างมีรสชาด ผ่านทาง MSN นี้เอง ประชุมที่โต๊ะ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ไม่ต้องเสียค่าอาหารว่าง
4. การส่งไฟล์แบบไม่จำกัดขนาดของไฟล์ เคยส่งไฟล์ขนาด 1GB พบว่า ไหวครับ สบายมาก จำกัดเฉพาะช่องสัญญาณของการส่งว่าจะมีเพียงพอหรือเปล่า


Youtube
YouTube (ยูทูบ) เป็นเว็บไซต์แลกเปลี่ยนภาพวิดีโอที่มีชื่อเสียง(www.youtube.com) โดยในเว็บไซต์นี้ ผู้ใช้สามารถอัพโหลดภาพวิดีโอเข้าไป เปิดดูภาพวิดีโอที่มีอยู่ และแบ่งภาพวิดีโอ เหล่านี้ให้คนอื่นดูได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ  ใน YouTube จะมีข้อมูลเนื้อหารวมถึงคลิปภาพยนตร์สั้นๆ และคลิปที่มาจากรายการโทรทัศน์ มิวสิกวิดีโอ และวิดีโอบล็อกกิ้ง (ซึ่งเป็นการสร้างบล็อกโดยมีส่วนของข้อมูลที่เป็นภาพ วิดีโอเป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะเป็นภาพวิดีโอที่เกิดจากมือสมัครเล่นถ่ายกันเอง) คลิปวิดีโอที่เผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์ YouTube ส่วนมากเป็นไฟล์คลิปสั้นๆ ประมาณ 1 - 10 นาที ถ่ายทำโดยประชาชนทั่วไป แล้วอัพโหลดขึ้นสู่เว็บไซต์ของ YouTube โดยมีการแบ่งประเภทและจัดอันดับคลิปเอาไว้ด้วย เช่น ไฟล์ล่าสุด, ไฟล์ที่มีผู้ชมมากที่สุด, ไฟล์ที่ได้รับการโหวตมากที่สุด ฯลฯ
         YouTube เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอผ่านอินเทอร์เน็ตที่มียอดผู้ชมวิดีโอของทางเว็บไซต์ทะลุหลัก 100 ล้านครั้งต่อวัน หรือคิดเป็นราว 29 เปอร์เซ็นต์ของยอดการเปิดดูคลิปวิดีโอทั้งหมดในสหรัฐฯ ในแต่ละเดือนมีผู้อัพโหลดวิดีโอขึ้นเว็บกว่า 65,000 เรื่อง
          สถิติจาก Nielsen/NetRatings ซึ่งเป็นผู้นำวิจัยการตลาดและสื่่ออินเตอร์ระดับโลกระบุว่า ปัจจุบัน YouTube มีสมาชิกเพิ่มขึ้นเดือนละ 20 ล้านคน นอกจากนี้ ในปี 2006 นิตยสารไทม์ ยกย่องให้เว็บไซต์ YouTube เว็บไซต์ให้บริการดาวน์โหลดไฟล์วิดีโอชื่อดัง เป็น "Invention of the Year" หรือรางวัลสิ่งประดิษฐ์แห่งปี อีกด้วย
ความเป็นมา
            เว็บไซต์ YouTube ก่อตั้งขึ้นวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ 2005  โดยมีอดีตพนักงานของ PayPal สามคนคือ Chad Hurley, Steve Chen และ Jawed Karim เป็นผู้ร่วมกันก่อตั้ง (ปัจจุบัน PayPal ถูก eBay ซึ้อไปแล้ว) แต่ต่อมา Jawed Karim ได้ออกจาก YouTube เพื่อไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย Standford  YouTube มีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองซานมาทีโอ รัฐแคลิฟอร์เนีย ปัจจุบันมีพนักงานจำนวน 67 คน 
             YouTube เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาสั้นๆ และได้รับความ สนใจเป็นอันมาก โดยเฉพาะการบอกแบบปากต่อปากที่ทำให้การเติบโตของ YouTube เป็นไปอย่างรวดเร็ว  YouTube มาเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายต่อเนื่อง เมื่อมีการนำภาพวิดีโอช่วง Lazy Sunday ของรายการ Saturday Night Live มาแสดงบนเว็บ ซึ่งต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2006ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี (NBC) ก็ได้เรียกร้องให้ทาง YouTube เอาคลิปวิดีโอที่มีลิขสิทธิ์ทั้งหลายออกจากเว็บ ซึ่ง YouTube เองก็มีนโยบายที่จะไม่เอาคลิปที่ละเมิดลิขสิทธิ์มาแสดงเช่นกัน นั่นทำให้ต่อมา You Tube กำหนดนโยบายที่ชัดเจนขึ้นในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามกรณีพิพาทกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีก็ได้ทำให้ YouTube เป็นข่าวและเพิ่มความดังมากขึ้นไปอีก
             ต่อมา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2006   google ได้ตกลงตัดสินใจเข้าซื้อ YouTube ด้วยมูลค่า 1,650 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปแบบของการแลกเปลี่ยนหุ้น อย่างไรก็ตาม YouTube ก็ยังคงดำเนินกิจกรรม ของบริษัทไปตามปกติ โดยเป็นอิสระจากการควบคุมของ google  การรวมกันของสองบริษัทนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสบการณ์ที่ดีขึ้นและเข้าใจได้มากขึ้น สำหรับผู้ใช้ที่สนใจในการอัพโหลด การดูวิดีโอ และการแชร์ภาพวิดีโอ รวมถึงการนำเสนอโอกาสใหม่ๆ สำหรับผู้เป็นเจ้าของ ข้อมูล (content) ที่เป็นมืออาชีพที่จะนำเสนองานของพวกเขาไปสู่คนวงกว้าง 


วิธีการใช้งาน youtube คลิกเข้าไปเลย


วิธี การ ใช้ ประโยชน์ สูงสุด จาก บัญชี ของ YouTube
Youtube เป็น เครือ ข่าย วิดีโอ ที่ ใช้ กัน อย่าง แพร่หลาย มาก ที่สุด ใน เว็บ. ทุก คน สามารถ ดู วิดีโอ จาก ทั่ว โลก และ ผู้ ใช้ สามารถ อัพโหลด วิดีโอ ของ ตัว เอง ได้ ฟรี ใน ช่อง ทาง ธุรกิจ ของ ตนเอง. ถ้า คุณ อ่าน ข้อความ นี้ โอกาส ที่ คุณ รู้จัก นี้ และ คุณ พร้อม ที่ จะ หา สิ่ง ที่ คุณ ไม่ ทราบ แต่ จะ ทำ เช่น โพ ส ต์ วิดีโอ นาน กว่า 11 นาที. สิ่ง ที่ มากหน้าหลายตา ไม่ ทราบ ว่า เป็น ที่ พวก เขา สามารถ ทำ สิ่ง อื่น ๆ ใน Youtube เช่น ตรวจ สอบ ความ นิยม ทั่ว โลก เขา ทำ รายการ เพลง และ ควบคุม ผู้ ใช้ สามารถ ดู วิดีโอ. ไป ด้าน บน และ เหนือ สามัญ โดย ประโยชน์ คุณสมบัติ ที่ ดี เยี่ยม Youtube มี ให้.


นี่ คือ สิ่ง ที่ คุณ ต้องการ:
บัญชี YouTube (มัน ฟรี คุณ ทราบ!)
1. ไป ที่ ช่อง ของ คุณ ดึง ลง เมนู ภาย ใต้ ชื่อ ผู้ ใช้ ของ คุณ ที่ มุม ขวา ด้าน บน ถัด mail และ สัญลักษณ์ TV. คลิก ที่ "มาก ขึ้น..." และ คุณ จะ มี บัญชี ภาพ รวม.
2. ที่ นี่ คุณ สามารถ ป้อน ความ สนใจ ของ คุณ อัป โหลด ภาพ โปรไฟล์ (แน่ใจ ว่า พอ มัน เล็ก) และ ตรวจ สอบ ว่า คุณ เป็น ที่ นิยม ใน ส่วน ต่างๆ ของ โลก ใน ช่วง เวลา. นี้ สามารถ พบ ได้ ผ่าน เข้าใจ "แท็ บ". ไป ที่ "ปรับ แต่งหน้า แรก" และ ทำ เครื่องหมาย ใน ช่อง ของ โปรแกรม ที่ คุณ ต้องการ. จะ มี บาง กราฟ แสดง จำนวน การ ดู ช่วง ไม่ กี่ เดือน ที่ ผ่าน มา และ ใน ประเทศ ที่ ดู พวก เขา.
3. ถ้า คุณ ต้องการ โพ ส ต์ วิดีโอ อีก ต่อ ไป คุณ จะ ต้อง บัญชี ผู้ อำนวย การ. มี หลาย ประเภท บัญชี อื่น เป็น. คุณ เริ่ม เป็น แต่ มี คน อื่น ๆ เช่น นัก ดนตรี ผู้ นำ ศาสนา ฮินดู ฯลฯ จุด นี้ คือ การ กำหนด ตัว เอง นอกเหนือ จาก ฝูง โดย การ ทำให้ ตัว เอง ใน YouTube เพิ่มเติม "พิเศษ." ชี้ เมาส์ ไป ที่ "บัญชี ของ ฉัน" ใน มุม ซ้าย ด้าน บนใน "บัญชี รวม หน้า". คลิก ที่ "My Channel.
4. ที่ นี่ คุณ สามารถ เพิ่ม ชื่อ ใน ช่อง ทาง ของ คุณ เพิ่ม คำ สำคัญ เพื่อ ให้ ง่าย ขึ้น เพื่อ ค้นหา และ คุณ สามารถ "ประเภท ช่อง ทาง แก้ไข" ที่ ด้าน ล่าง. (ฉัน คิด Youtube ทำให้ คุณสมบัติ พิเศษ หา ยาก เพื่อ ป้องกัน ไม่ ให้ คน จำนวน มาก เกินไป จาก การ อัป โหลด วิดีโอ อีก ต่อ ไป นี้.) จำ ไว้ ว่า ถ้า คุณ ต้องการ อัป โหลด วิดีโอ อีก เลือก "Director."

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น